การเริ่มต้นพิจารณาตนเองอย่างละเอียด โดยมุ่งที่จะแก้ไขข้อบกพร่องของตนเองอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน โดยอาศัยหลักปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ นับเป็นจุดเด่นของการศึกษาความเป็นจริงของชีวิต ตามหลักการทางพระพุทธศาสนา ซึ่งองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงสอนให้เราเข้าใจตัวเอง สอนให้รู้ถึงหลักปฏิบัติ และวิธีการแก้ไขตนเอง โดยละเอียดและลึกซึ้ง เพื่อให้เข้าถึงที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง คือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ ที่มีอยู่ภายในตัวของเราอยู่แล้ว
การที่จะเข้าสู่พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ ภายในนี้ นอกจากการที่เราจะต้องปฏิบัติธรรมเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ หมั่นมองเข้าไปข้างในตัวเอง มองไปตามฐานที่ 1 ถึงฐานที่ 7 แล้วหมั่นเอาใจไปเก็บไว้ที่ฐานที่ 7 นี้ ในทุกอิริยาบถแล้ว สิ่งที่ต้องพิจารณาอยู่เป็นประจำไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน และถือเป็นหัวใจของการเข้าถึงธรรมเข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน นั่นคือ “การพิจารณาธรรมชาติประจำสรีระ” ซึ่งคนทั่วไปมักจะละเลย แต่สำหรับพระภิกษุแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งให้พิจารณาเรื่องนี้เป็นประจำ เพราะหากพลั้งเผลอไม่หมั่นพิจารณา "จะไม่รู้จักตัวเอง"
ธรรมชาติประจำสรีระ ได้แก่
- ความหนาว
- ความร้อน
- ความหิว
- ความกระหาย
- ความปวดอุจจาระ
- ความปวดปัสสาวะ
- ความสำรวมกาย
- ความสำรวมวาจา
- สำรวมในอาชีพ
- ธรรมเป็นเครื่องปรุงแต่ภพ เป็นเหตุให้เกิดในภพใหม่
มาดูกันสองข้อแรกก่อน ความหนาว, ความร้อน (ซึ่งในที่นี้หมายถึงความหนาว, ความร้อนภายในตัว) เมื่อเราศึกษาพุทธประวัติ เราจะพบว่า เจ้าชายสิทธัตถะก่อนที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประทับอยู่ในวัง 3 ฤดู มีทุกอย่างพร้อมสรรพ แต่กลับทรงดำริว่า “โลกนี้เป็นทุกข์” แล้วทรงออกบวช เหตุที่ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะทรงตัดพระทัยละทิ้งวัง ทิ้งราชบัลลังก์ที่รออยู่ ทรงม้ากัณฐกะเสด็จออกจากพระนครไปอย่างไม่เหลียวหลังกลับ ก็เริ่มจากความหนาว, ความร้อน นี้เอง
เราเคยถามตัวเองหรือไม่ว่า “ทำไม บางครั้งจึงรู้สึกเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว, ทำไม บางครั้งแม้อยู่ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศแต่ก็ยังรู้สึกร้อนได้” ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ “มนุษย์” ประกอบด้วยธาตุ 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ แต่ธาตุ 4 ในตัวของมนุษย์นั้นไม่บริสุทธิ์ เมื่อธาตุ 4 ไม่บริสุทธิ์ สิ่งที่เกิดตามมาก็คือ เซลล์ในตัวตายไปเป็นจำนวน 300 ล้านเซลล์/นาที ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เรารู้สึกเดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อน
เมื่อธาตุ 4 ในตัวของมนุษย์ไม่บริสุทธิ์ ส่งผลให้เซลล์ในตัวตายไปเป็นจำนวน 300 ล้านเซลล์/นาที ดังนั้น ถ้าปล่อยให้เซลล์ตายไปเรื่อยๆ ไม่นานก็จะตายทั้งตัว มนุษย์จึงต้องหาธาตุ 4 จากภายนอกมาเติม จึงทำให้เราได้ทราบต่อไปอีกว่า สาเหตุที่เราต้องหายใจ ก็เพราะจะเอาธาตุลมมาเติม, สาเหตุที่เรากระหายน้ำ ก็เพราะจะเอาธาตุน้ำมาเติม, สาเหตุที่เราหิว ก็เพราะจะเอาธาตุดินมาเติม, สาเหตุที่เราต้องมีเสื้อผ้ามานุ่งห่มให้ความอบอุ่นกับร่างกาย ก็เพราะจะเอาธาตุไฟมาเติม
แต่ธาตุ 4 จากภายนอกที่เอามาเติมนั้น ปรากฏว่ามันก็ไม่บริสุทธิ์ เซลล์ในตัวจึงยังคงตายต่อไป เพราะฉะนั้น จึงต้องเติมธาตุ 4 อยู่ตลอดเวลา เมื่อเราทราบกันเช่นนี้แล้ว ต่อไปเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกหนาว อย่าเพิ่งไปนึกถึงถ้าห่ม เมื่อไหร่ที่เรารู้สึกร้อน อย่าเพิ่งไปนึกถึงเครื่องปรับอากาศ เมื่อไหร่ที่เรารู้สึกหิว รู้สึกกระหาย อย่าเพิ่งนึกถึงในครัว ให้เราพึงระลึกเสมอว่า "ธาตุ 4 ในตัวของเราไม่บริสุทธิ์ ร่างกายกำลังต้องการธาตุ 4 จากภายนอกมาเติม" อีกทั้ง เมื่อเรารู้สึกปวดปัสสาวะ หรือปวดอุจจาระ พึงระลึกเสมอว่า นี้เป็นสัญญาณแสดงว่า ธาตุ 4 ในตัวของเราทั้งที่มีอยู่เดิมและที่ไปหามาเพิ่มนั้น ไม่บริสุทธิ์ ดังนั้น จึงมีกากออกมา
หากเราพิจารณาตามและหมั่นระลึกเสมอๆ ดังที่กล่าวมาแล้วนี้ เราจะไม่หลงตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีใครช่วยเราได้ เราต้องพึ่งตนเอง ตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ว่า “อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ” (ตนแลเป็นที่พึ่งของตน)
โปรดติดตามต่อไป "ธรรมชาติประจำสรีระ ตอนที่ 2"
เรียบเรียงจากรายการนานาเทศนา ตอน ศัตรูที่แท้จริง (ออกอากาศทาง DMC) พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อทัตตชีโว
บทความที่เกี่ยวข้อง: