ทอดกฐินสามัคคี พ.ศ.2549
วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 ณ วัดพระธรรมกาย ปทุมธานี
“ทอดกฐิน” อริยประเพณีที่สืบทอดมากว่า 2,500 ปี นับตั้งแต่ครั้งที่พระพุทธองค์ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ จวบจนถึงปัจจุบัน ถือเป็นประเพณีที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลายทุกยุคทุกสมัยมีความศรัทธาเลื่อมใสว่าเป็น “ยอดของมหากุศล” จะเป็นเหตุให้ผู้ที่ได้มีส่วนในการทอดกฐินนั้น ได้อานิสงส์อันยิ่งใหญ่สุดประมาณ ด้วยเหตุนี้ การทำบุญทอดกฐินจึงเป็นงานบุญที่อยู่ในใจและอยู่ในเส้นทางสัญจรของชีวิต ที่ในหนึ่งปีจะพลาดไม่ได้ เพื่อให้การทำบุญทอดกฐินในปีนี้ ดำเนินอยู่บนรากฐานของศรัทธาอย่างพุทธศาสนิกชนตามพุทธประสงค์ กล่าวคือ ทำบุญอย่างผู้เข้าใจคุณค่าและความหมายของบุญ ดังนั้น จึงควรอย่างยิ่งที่เราจะได้ศึกษาความเป็นมาและความสำคัญของประเพณีทอดกฐิน ดังมีเรื่องราวต่อไปนี้
ความหมายของ “กฐิน” และ “ทอดกฐิน”
กฐิน มีความหมายที่เกี่ยวข้องกันอยู่หลายความหมาย ดังนี้
- กฐินที่เป็นชื่อของกรอบไม้ กรอบไม้แม่แบบสำหรับทำจีวร ซึ่งอาจเรียกว่า “สะดึง” ก็ได้ เนื่องจากในครั้งพุทธกาล การทำจีวรให้มีรูปลักษณะตามที่กำหนดกระทำได้โดยยาก จึงต้องทำกรอบไม้สำเร็จรูปไว้ เพื่อเป็นอุปกรณ์สำคัญในการทำเป็นผ้านุ่งหรือผ้าห่ม หรือผ้าห่มซ้อน ที่เรียกว่า “จีวร” เป็นส่วนรวม ผืนใดผืนหนึ่งก็ได้ ในภาษาไทยนิยมเรียก ผ้านุ่ง ว่า “สบง” ผ้าห่ม ว่า “จีวร” และ ผ้าห่มซ้อน ว่า “สังฆาฏิ”
- กฐินที่เป็นชื่อของผ้า หมายถึง ผ้าที่ถวายให้เป็นกฐินภายในกำหนดกาล 1 เดือน นับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ผ้าที่จะถวายนั้นจะเป็นผ้าใหม่ หรือผ้าเทียมใหม่ เช่น ผ้าฟอกสะอาด หรือผ้าเก่า หรือผ้าบังสุกุล คือ ผ้าที่เขาทิ้งแล้ว และเป็นผ้าเปื้อนฝุ่น หรือผ้าที่มีผู้ถวายจะเป็นคฤหัสถ์ก็ได้ เป็นภิกษุหรือสามเณรก็ได้ ถวายแด่สงฆ์แล้วก็เป็นอันใช้ได้
- กฐินที่เป็นชื่อของบุญกิริยา คือ การทำบุญ กล่าวคือ การถวายผ้ากฐินเป็นทานแด่พระสงฆ์ผู้จำพรรษาอยู่ในวัดใดวัดหนึ่งครบไตรมาส เพื่อสงเคราะห์ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ ให้มีผ้านุ่งหรือผ้าห่มใหม่ จะได้ใช้ผลัดเปลี่ยนของเก่าที่จะขาดหรือชำรุด การทำบุญถวายผ้ากฐิน หรือที่เรียกว่า “ทอดกฐิน” คือ ทอดหรือวางผ้าลงไป แล้วกล่าวคำว่าถวายในท่ามกลางสงฆ์ เรียกได้ว่าเป็น กาลทาน คือ การถวายก่อนหน้านั้น หรือหลังจากนั้น ไม่เป็นกฐิน จึงถือว่าเป็นทานที่หาโอกาสทำได้ยาก
- กฐินที่เป็นชื่อของสังฆกรรม คือ กิจกรรมของสงฆ์ที่จะต้องมีการสวดประกาศขอรับความเห็นชอบจากที่ประชุมสงฆ์ ในการมอบผ้ากฐินให้แก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เมื่อทำจีวรสำเร็จแล้ว ด้วยความร่วมมือของภิกษุทั้งหลาย จะได้เป็นโอกาสให้ได้ช่วยกันทำจีวรของภิกษุรูปอื่น ขยายเวลาทำจีวรได้อีก 4 เดือน ทั้งนี้เพราะในสมัยพุทธกาล การหาผ้า การทำจีวร ทำได้โดยยาก ไม่ทรงอนุญาตให้เก็บสะสมผ้าไว้เกิน 10 วัน แต่เมื่อได้ช่วยกันทำสังฆกรรมเรื่องกฐินแล้ว ทรงอนุญาตให้แสวงหาผ้าและเก็บไว้ทำเป็นจีวรได้จนตลอดฤดูหนาว กล่าวคือ จนถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 4
ที่มาของประเพณีทอดกฐิน
ในสมัยพุทธกาล ภิกษุชาวเมืองปาไฐยรัฐ จำนวน 30 รูป เดินทางมาเฝ้าพระศาสดา แต่ไม่ทันวันเข้าพรรษา จึงจำพรรษา ณ เมืองสาเกตุ ในระหว่างทาง พอออกพรรษาฝนยังตกชุกอยู่ ภิกษุเหล่านั้นก็เดินทางมาเข้าเฝ้าพระศาสดาด้วยความลำบาก ระยะนั้นมีฝนตกชุก หนทางที่เดินชุ่มไปด้วยน้ำ เป็นโคลนเป็นตม ต้องบุกต้องลุยมาจนกระทั่งถึงกรุงสาวัตถี พระศาสดาตรัสถามถึงความเป็นอยู่และการเดินทาง ภิกษุเหล่านั้นจึงกราบทูลให้ทรงทราบ จากนั้นพระพุทธองค์ทรงมีพุทธานุญาต ให้มีการถวายผ้ากฐินแก่ภิกษุทั้งหลายผู้จำพรรษาครบถ้วนไตรมาส โดยกำหนดระยะเวลา คือ นับจากวันออกพรรษา ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เป็นระยะเวลา 1 เดือน “กฐิน” จึงได้ชื่อว่าเป็น “กาลทาน”
ความพิเศษของกฐินทาน
ในปีหนึ่ง แต่ละวัดสามารถรับกฐินได้เพียงครั้งเดียว นอกจากนั้นแล้วกฐินทานก็มีความพิเศษแตกต่างจากทานอย่างอื่นอีก ได้แก่
- จำกัดประเภททาน คือ ต้องถวายเป็นสังฆทานเท่านั้น จะถวายเฉพาะเจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่งเหมือนทานอย่างอื่นไม่ได้
- จำกัดเวลา คือ ต้องถวายภายในระยะเวลา 1 เดือน นับแต่วันออกพรรษาเป็นต้นไป
- จำกัดงาน คือ พระภิกษุที่กรานกฐิน ต้องตัด เย็บ ย้อม และครอง ให้เสร็จภายในวันที่กรานกฐิน
- จำกัดไทยธรรม คือ ผ้าที่ถวายต้องถูกต้องตามลักษณะที่สงฆ์กำหนดไว้
- จำกัดผู้รับ คือ พระภิกษุผู้รับกฐิน ต้องเป็นผู้ที่จำพรรษาในวัดนั้นโดยไม่ขาดพรรษา และมีจำนวนไม่น้อยกว่า 5 รูป
- จำกัดคราว คือ วัดๆหนึ่งจะรับกฐินได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น
- เป็นพระบรมพุทธานุญาต ทานอย่างอื่นทายกทูลขอให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาต เช่น มหาอุบาสิกาวิสาขาทูลขออนุญาตถวายผ้าอาบน้ำฝน เป็นต้น แต่ผ้ากฐินนี้พระพุทธองค์ทรงอนุญาตเอง นับเป็นพระพุทธประสงค์โดยตรง
ประเพณีทอดกฐินในปัจจุบัน
ในช่วงเช้า เหล่าอุบาสก อุบาสิกา จะเริ่มต้นเช้าอันเป็นวันมงคล ด้วยการทำบุญตักบาตรพระภิกษุสามเณรที่จำพรรษา ณ อาวาสดังกล่าว ภาพพระภิกษุและสามเณรเดินเรียงรายเป็นทิวแถวด้วยอาการสงบ สีเหลืองทองของผ้ากาสาวพัสตร์ต้องแสงตะวันยามเช้า สร้างเลื่อมใสศรัทธาให้เอิบอาบในใจจิตพุทธศาสนิกชนทุกคนที่ได้พบเห็นอย่างไม่เสื่อมคลาย
พิธีทอดกฐินสามัคคี เพื่อถวายผ้ากฐินตามพระบรมพุทธานุญาต บางวัดจัดขึ้นในช่วงสายและต่อด้วยการถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน อีกทั้งโดยธรรมเนียมแล้ว มักมี “บริวารกฐิน” เพื่อถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ซึ่งไว้ใช้เป็นค่าใช้จ่ายภายในวัด เป็นค่าน้ำค่าไฟตลอดทั้งปี รวมทั้งค่าก่อสร้าง ทั้งส่วนซ่อมแซมและต่อเติมเสริมใหม่ ส่งผลให้กิจการพระศาสนาขยายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ บางวัดก็จะเพิ่มการปฏิบัติธรรมด้วย อย่างเช่นที่วัดพระธรรมกาย กิจกรรมทอดกฐินจะทำในช่วงบ่าย ส่วนช่วงสายนั้น ทุกคนจะได้ปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนาร่วมกัน เพื่อกลั่นใจให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ เหมาะสมเป็นภาชนะรองรับบุญใหญ่
กิจกรรมที่มาพร้อมกับประเพณีกฐิน คือ “ขบวนอัญเชิญผ้ากฐิน” ซึ่งขึ้นกับแต่ละวัด แต่ละท้องถิ่น เป็นการแสดงถึงการให้ความสำคัญของพิธีทอดกฐิน ซึ่งจัดพียงปีละครั้งเท่านั้น ริ้วขบวนอาจประกอบด้วย ขบวนธงทิว ขบวนพานพุ่มดอกไม้ โดยสาธุชนต่างพาบุตรหลานของตนมาร่วมขบวน ซึ่งแสดงถึงภูมิปัญญาไทยที่หล่อหลอมให้เยาวชนได้ใกล้วัดตั้งแต่เล็ก การได้ผ้ากฐินแบบมีเจ้าภาพ ที่ถือเป็น “คฤหบดีกฐิน” นั้น เมื่อมีผู้มาทอดผ้า ณ เบื้องหน้าคณะสงฆ์ โดยไม่ได้เจาะจงถวายแก่รูปใดรูปหนึ่ง คณะสงฆ์ต้องทำ “พิธีอปโลกน์กฐิน” หมายถึง การที่พระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งเสนอขึ้นในที่ประชุมสงฆ์ ถามความเห็นชอบว่า ผ้ากฐินในปีนี้ควรถวายแก่ภิกษุรูปใด ส่วน “พิธีกรานกฐิน” เป็นสังฆกรรมที่คณะสงฆ์จะทำพิธีกันในพระอุโบสถ โดยพระภิกษุผู้ได้รับการเลือกสรรจากคณะสงฆ์ว่า เป็นผู้มีสติปัญญา สามารถที่จะกรานกฐินได้
อานิสงส์จากการทำบุญทอดกฐิน
- ทำให้เกิดมาในตระกูลที่ดี มีสัมมาทิฐิ
- ทำให้ได้ลักษณะที่งดงามสมส่วน
- ทำให้มีผิวพรรณงดงาม
- ทำให้มีทรัพย์สมบัติมาก ไม่ลำบากในการแสวงหาทรัพย์
- เมื่อละโลกแล้วย่อมไปบังเกิดในสวรรค์
กำหนดการ
6.30 น. | พิธีตักบาตร ข้าวสาร-อาหารแห้ง (เพื่อนำไปมอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ) |
9.30 น. | สวดมนต์ - นั่งสมาธิ – พิธีบูชาข้าวพระ |
11.00 น. | ถวายภัตตาหารเพล เป็นสังฆทาน |
11.15 น. | พักรับประทานอาหารกลางวัน |
13.30 น. | นั่งสมาธิ และประกอบพิธีทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2549 |
15.00 น. | ถวายปัจจัยสร้างศูนย์กลางธรรมกายแห่งโลก |
16.00 น. | พิธีปิดแผ่นทองเสาเข็มต้นแรก สร้าง “มหาวิหารพระมงคลเทพมุนี” ณ แผ่นดินดอกบัว จ.สุพรรณบุรี |
ประมวลภาพ
พิธีตักบาตร ข้าวสาร-อาหารแห้ง เพื่อนำไปมอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ
พิธีบูชาข้าวพระ
ขบวนอัญเชิญผ้ากฐิน
พิธีทอดกฐินสามัคคี ประจำปี พ.ศ.2549
ถวายปัจจัยสร้างศูนย์กลางธรรมกายแห่งโลก
พิธีปิดแผ่นทองเสาเข็มต้นแรก สร้าง “มหาวิหารพระมงคลเทพมุนี” ณ แผ่นดินดอกบัว จ.สุพรรณบุรี
พิธีกรานกฐิน